แนวทางการสร้างรากฐาน SEO

Jimbe Allen
15/03/2024
แนวทางการสร้างรากฐาน SEO

ต่อไปนี้เป็นแนวทางพื้นฐานในการทำ SEO

เนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ: มุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง ให้ข้อมูล และน่าดึงดูดซึ่งตอบสนองความต้องการและจุดประสงค์ในการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายของคุณ
การวิจัยคำหลัก: ระบุคำหลักที่เกี่ยวข้องที่ผู้ใช้ค้นหาและรวมคำหลักเหล่านั้นไว้ในเนื้อหาของคุณอย่างมีกลยุทธ์
เทคนิค SEO: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีโครงสร้างที่สะอาดตาและปรับให้เหมาะสม พร้อมเวลาในการโหลดที่รวดเร็วและเหมาะกับอุปกรณ์พกพา
การเพิ่มประสิทธิภาพบนเพจ: เพิ่มประสิทธิภาพแท็กชื่อ คำอธิบายเมตา แท็กส่วนหัว และข้อความแสดงแทนรูปภาพด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้อง
ลิงก์ย้อนกลับ: รับลิงก์จากเว็บไซต์คุณภาพสูงที่ทำหน้าที่เป็นการรับรองและเพิ่มอำนาจเว็บไซต์ของคุณในสายตาของเครื่องมือค้นหา
ประสบการณ์ผู้ใช้ (UX): จัดลำดับความสำคัญของเว็บไซต์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ด้วยการนำทางที่ชัดเจนและประสบการณ์โดยรวมเชิงบวก

ต่อไปนี้เป็นจุดเพิ่มเติมที่ควรพิจารณา

รับทราบข้อมูล: อัลกอริธึมของเครื่องมือค้นหามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการติดตามแนวโน้ม SEO ล่าสุดและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
มุ่งเน้นที่คุณค่า: อย่าเติมคำหลักเพียงอย่างเดียว สร้างเนื้อหาที่ให้คุณค่าที่แท้จริงแก่ผู้ใช้
กลยุทธ์ระยะยาว: SEO คือการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น เตรียมพร้อมที่จะสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ และสร้างกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
โปรดจำไว้ว่า แม้ว่าหลักเกณฑ์เหล่านี้จะถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ SEO ก็เป็นสาขาที่ซับซ้อน เพื่อความเข้าใจที่ครอบคลุม

ลองสำรวจแหล่งข้อมูลเช่น

คู่มือเริ่มต้นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) ของ Google: https://developers.google.com/search/docs/fundamentals/get-started-developers
คู่มือ SEO สำหรับผู้เริ่มต้นของ Moz: https://moz.com/beginners-guide-to-seo/quick-start-guide
เมื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เหล่านี้และติดตามแนวโน้มล่าสุด คุณจะสามารถเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ของคุณและการเข้าชมทั่วไปผ่านแนวทางปฏิบัติ SEO ที่มีประสิทธิภาพ

ประเภทของ SEO ที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้น

Jimbe Allen
02/03/2024
ประเภทของ SEO ที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้น

จำนวนประเภท SEO อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิธีการจัดหมวดหมู่ ต่อไปนี้เป็นมุมมองทั่วไปสองประการ:

  1. สามประเภทหลัก

SEO บนเพจ: การเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาเว็บไซต์ เช่น การใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องและคำอธิบายเมตา
SEO นอกเพจ: การสร้างลิงก์ย้อนกลับและปัจจัยภายนอกที่ปรับปรุงอำนาจของเว็บไซต์
เทคนิค SEO: การทำให้แน่ใจว่าโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาสามารถเข้าถึงและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. การแบ่งหมวดหมู่แบบขยาย (ประมาณ 12 ประเภท)

สิ่งนี้จะแบ่ง SEO ออกเป็นด้านเฉพาะมากขึ้นเช่น

SEO ท้องถิ่น: การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับผลการค้นหาในท้องถิ่น
SEO บนมือถือ: การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์สำหรับอุปกรณ์มือถือ
E-commerce SEO: การเพิ่มประสิทธิภาพร้านค้าออนไลน์สำหรับการค้นหาผลิตภัณฑ์
Content SEO: การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่ดึงดูดการเข้าชมแบบออร์แกนิก
Image SEO: การเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพสำหรับเครื่องมือค้นหา

แม้ว่ามีวิธีจัดหมวดหมู่ SEO หลายวิธี แต่การทำความเข้าใจประเด็นหลักเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณพัฒนากลยุทธ์ SEO ที่ครอบคลุมสำหรับเว็บไซต์ของคุณได้

ประโยชน์จากการทำ SEO ในยุค 2024

ประโยชน์จากการทำ SEO ในยุค 2024

การทำ SEO (Search Engine Optimization) ยังคงมีความสำคัญอย่างมากในยุคปัจจุบัน โดยมีประโยชน์หลายประการดังนี้:

เพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

การทำ SEO ช่วยเว็บไซต์และเนื้อหาในการปรับปรุงเพื่อให้ติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google ซึ่งเพิ่มโอกาสในการได้รับการเข้าชมมากขึ้น

เพิ่มการเข้าถึงและการเผยแพร่

การปรับปรุงเนื้อหาเพื่อเข้ากับคำค้นหาที่เป็นที่ต้องการของผู้ใช้ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์และเนื้อหาของคุณ ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสในการเผยแพร่และการแบ่งปันเนื้อหามากขึ้น

เพิ่มการสร้างยอดขายและการทำธุรกิจ

การเข้าถึงที่ดีในผลการค้นหาช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้เข้าชมเป็นลูกค้า โดยเฉพาะในธุรกิจออนไลน์ ซึ่งส่งผลให้เพิ่มยอดขายและรายได้ของธุรกิจ

ลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา

การทำ SEO อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา เนื่องจากเมื่อเว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหา คุณไม่จำเป็นต้องลงทุนในโฆษณาที่แพงอีกต่อไป

การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้

การทำ SEO มักจะไปพร้อมกับการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้บนเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดความพึงพอใจและการกลับมาใช้บริการอีกครั้งในอนาคต

ในยุคปัจจุบัน การทำ SEO ยังคงเป็นกลไกที่สำคัญในการสร้างและเพิ่มความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์และการตลาดอินเทอร์เน็ตอย่างแท้จริง

ทำไมต้องทำ SEO และข้อดีของการทำ SEO มีอะไรบ้าง

Jimbe Allen
26/10/2023
ทำไมต้องทำ SEO และข้อดีของการทำ SEO มีอะไรบ้าง

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นกระบวนการปรับปรุงการมองเห็นและอันดับของเว็บไซต์หรือหน้าเว็บในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERP) ทำได้โดยการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อให้เกี่ยวข้องกับอัลกอริธึมของเครื่องมือค้นหามากขึ้น

เหตุผลที่คุณต้องเลือกทำ SEO คือ

1.เพื่อเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ การเข้าชมที่เกิดขึ้นเองคือการเข้าชมที่มายังเว็บไซต์ของคุณจากเครื่องมือค้นหา ซึ่งตรงข้ามกับการเข้าชมที่เสียค่าใช้จ่าย เช่น การเข้าชมจากการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) การเข้าชมที่เกิดขึ้นเองนั้นมีคุณค่าเนื่องจากเป็นบริการฟรีและสร้างขึ้นโดยผู้ที่สนใจในสิ่งที่คุณนำเสนออยู่แล้ว

2.เพื่อปรับปรุงการรับรู้ถึงแบรนด์และความน่าเชื่อถือ เมื่อเว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับสูงใน SERP จะเป็นการส่งสัญญาณไปยังผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าว่าคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และเชื่อถือได้ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การรับรู้ถึงแบรนด์และความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ยอดขายและโอกาสในการขายที่มากขึ้น

3.เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน ในโลกดิจิทัลปัจจุบัน ธุรกิจส่วนใหญ่แข่งขันกันทางออนไลน์ SEO สามารถช่วยให้คุณก้าวนำหน้าคู่แข่งโดยการจัดอันดับ SERP ที่สูงขึ้น และดึงดูดผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

ข้อดีของการทำ SEO

การทำ SEO มีข้อดีหลายประการ ได้แก่

1.ลดค่าใช้จ่าย SEO เป็นวิธีที่ค่อนข้างคุ้มต้นทุนในการทำการตลาดเว็บไซต์ของคุณ เมื่อคุณเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณสำหรับเครื่องมือค้นหาแล้ว คุณจะยังคงได้รับประโยชน์จากการเข้าชมทั่วไปต่อไปอีกหลายปีต่อจากนี้

2.ผลลัพธ์ระยะยาว SEO เป็นการลงทุนระยะยาว แต่สามารถสร้างผลลัพธ์ระยะยาวได้ เมื่อเว็บไซต์ของคุณมีอันดับสูงใน SERPs อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคู่แข่งที่จะทำให้คุณหลุดจากตำแหน่งสูงสุด

3.การเข้าชมที่เป็นเป้าหมาย SEO สามารถช่วยคุณดึงดูดปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งหมายความว่าคุณมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้เข้าชมที่สนใจสิ่งที่คุณนำเสนอได้มากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การขายและโอกาสในการขายที่มากขึ้น

4.ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ SEO ยังสามารถช่วยปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้เว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย เนื่องจาก SEO สนับสนุนให้คุณสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

โดยรวมแล้ว SEO เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ด้วยการลงทุนใน SEO คุณสามารถปรับปรุงการมองเห็น อันดับ และการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งอาจนำไปสู่ยอดขายและโอกาสในการขายที่มากขึ้น

หน้าที่หลักของseo

Jimbe Allen
26/09/2023
หน้าที่หลักของseo

1.ปรับปรุงการมองเห็นและการจัดอันดับเว็บไซต์ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERP) ซึ่งทำได้โดยการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหา โครงสร้าง และลิงก์ของเว็บไซต์เพื่อให้มีความเกี่ยวข้องและดึงดูดใจเครื่องมือค้นหามากขึ้น

2.ขับเคลื่อนการเข้าชมแบบออร์แกนิกไปยังเว็บไซต์ การเข้าชมทั่วไปคือการเข้าชมที่มาจากเครื่องมือค้นหา โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าโฆษณา SEO สามารถช่วยเพิ่มการเข้าชมทั่วไปโดยการปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ใน SERP

3.เพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และการเข้าถึง เว็บไซต์ที่มีอันดับสูงกว่าใน SERP มีแนวโน้มที่จะถูกมองเห็นโดยผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากขึ้น SEO สามารถช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และการเข้าถึงโดยการปรับปรุงการมองเห็นเว็บไซต์ใน SERP

4.สร้างโอกาสในการขายและการขาย เมื่อผู้คนเยี่ยมชมเว็บไซต์จาก SERP พวกเขามีแนวโน้มที่จะสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เว็บไซต์นำเสนอมากขึ้น SEO สามารถช่วยสร้างโอกาสในการขายและยอดขายโดยการเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์

5.SEO เป็นสาขาที่ซับซ้อนและมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จทางออนไลน์ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์สำหรับเครื่องมือค้นหา ธุรกิจต่างๆ จะสามารถปรับปรุงการมองเห็น เข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้น และสร้างโอกาสในการขายและยอดขายได้มากขึ้น

นี่คืองานเฉพาะบางส่วนที่ผู้เชี่ยวชาญ SEO ดำเนินการ

1.การวิจัยคำหลัก การระบุคำหลักที่ผู้คนใช้เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการเช่นคุณ

2.การเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหา การเขียนและการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์ของคุณที่เกี่ยวข้องกับคำหลักเป้าหมายและอัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหา

3.SEO ทางเทคนิค ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีเสียงทางเทคนิคและง่ายสำหรับเครื่องมือค้นหาในการรวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนี

4.การสร้างลิงก์ การรับเว็บไซต์อื่นมาเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงอำนาจและอันดับของคุณใน SERP

5.การวิเคราะห์และการรายงาน การติดตามและวิเคราะห์การเข้าชมและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณเพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุง

SEO เป็นกระบวนการต่อเนื่อง และต้องใช้เวลาและความพยายามจึงจะเห็นผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ SEO ที่ดำเนินการอย่างดีสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

เคล็บลับการทำseoให้ติดอันดับgoogle

Jimbe Allen
27/08/2023
เคล็บลับการทำseoให้ติดอันดับgoogle

เคล็ดลับ SEO ในการจัดอันดับใน Google

1.ทำการวิจัยคำหลักและเลือกคำหลักที่เหมาะสม เมื่อผู้คนค้นหาบางสิ่งบน Google พวกเขาจะใช้คำหลัก เป้าหมายของคุณคือการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้ปรากฏอยู่ในระดับสูงในผลการค้นหาสำหรับคำหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

2.สร้างเนื้อหาคุณภาพสูง Google ต้องการแสดงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้ ดังนั้นพวกเขาจึงให้รางวัลเว็บไซต์ด้วยเนื้อหาคุณภาพสูง ซึ่งหมายความว่าเนื้อหาที่ให้ข้อมูล เขียนได้ดี และเกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ค้นหา

3.ใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องทั่วทั้งเว็บไซต์ของคุณ คำหลักของคุณควรใช้ในแท็กชื่อ คำอธิบายเมตา ส่วนหัว และตลอดเนื้อหาของคุณ อย่างไรก็ตาม ควรใช้อย่างเป็นธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการใช้คำหลักในทางที่ผิด

4.สร้างลิงก์ย้อนกลับไปยังเว็บไซต์ของคุณ ลิงก์ย้อนกลับคือลิงก์จากเว็บไซต์อื่นมายังของคุณ สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณไปยัง Google ว่าเว็บไซต์ของคุณเชื่อถือได้และเชื่อถือได้ คุณสามารถสร้างลิงก์ย้อนกลับได้โดยการเขียนบล็อกของผู้เยี่ยมชม เข้าร่วมในฟอรั่ม และส่งเว็บไซต์ของคุณไปยังไดเร็กทอรี

5.เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณเพื่อความรวดเร็ว Google ให้รางวัลเว็บไซต์ที่โหลดเร็ว คุณสามารถปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์ของคุณได้โดยการลดขนาดโค้ด เพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพ และใช้เครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา (CDN)

6.แก้ไขข้อผิดพลาดทางเทคนิคบนเว็บไซต์ของคุณ Google ยังลงโทษเว็บไซต์ที่มีข้อผิดพลาดทางเทคนิคด้วย ซึ่งรวมถึงสิ่งต่างๆ เช่น ลิงก์ที่ใช้งานไม่ได้ เนื้อหาที่ซ้ำกัน และโค้ดที่ไม่ดี

7.ปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ทันสมัยอยู่เสมอ Google ชอบดูเว็บไซต์ที่อัปเดตเป็นประจำ นี่แสดงว่าคุณกระตือรือร้นและมีส่วนร่วม

8.ใช้คอนโซลการค้นหาของ Google Google Search Console เป็นเครื่องมือฟรีที่สามารถช่วยคุณติดตามประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณในการค้นหาของ Google นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณระบุและแก้ไขปัญหา SEO ได้อีกด้วย

นี่เป็นเพียงเคล็ดลับ SEO บางส่วนที่สามารถช่วยให้คุณติดอันดับใน Google ได้ เมื่อปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณสามารถปรับปรุงการแสดงผลเว็บไซต์ของคุณและดึงดูดผู้เข้าชมได้มากขึ้น

เคล็ดลับเพิ่มเติมที่คุณสามารถพิจารณาได้มีดังนี้

-ใช้มาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้าง มาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นวิธีหนึ่งในการเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาของคุณลงในเว็บไซต์ของคุณ วิธีนี้ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้นและจัดอันดับเนื้อหาให้สูงขึ้นในผลการค้นหา

-ปรับให้เหมาะสมสำหรับการค้นหาในท้องถิ่น หากธุรกิจของคุณมีที่ตั้ง คุณควรเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณสำหรับการค้นหาในท้องถิ่น ซึ่งหมายความว่าการใส่ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ไว้ในข้อมูลเมตาของเว็บไซต์ของคุณ

-ใช้โซเชียลมีเดีย โซเชียลมีเดียอาจเป็นวิธีที่ดีในการโปรโมตเว็บไซต์ของคุณและดึงดูดปริมาณการเข้าชม อย่าลืมแชร์เนื้อหาของคุณบนโซเชียลมีเดียและใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องในโพสต์ของคุณ

-ดำเนินการตรวจสอบ SEO หากคุณต้องการจริงจังกับ SEO คุณควรพิจารณาดำเนินการตรวจสอบ SEO วิธีนี้จะช่วยคุณระบุปัญหา SEO ที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณไม่สามารถอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหาได้

SEO เป็นสาขาที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณใน Google ได้

seo สำคัญมากน้อยเพียงใด

Jimbe Allen
29/07/2023
SEO หรือ Search Engine Optimization มีความสำคัญมากสำหรับธุรกิจทุกประเภทในปัจจุบัน เพราะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา (SERPs) เมื่อผู้คนค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ซึ่งจะช่วยดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น และมีโอกาสที่จะปิดการขายมากขึ้น SEO เป็นกระบวนการที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับให้สูงขึ้นใน SERPs ซึ่งสามารถทำได้โดยการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้สอดคล้องกับปัจจัยด้าน SEO ต่างๆ ซึ่งรวมถึง: การใช้คำหลักและวลีที่เกี่ยวข้องในเนื้อหาของเว็บไซต์ การสร้างโครงสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย การเพิ่มลิงก์กลับไปยังเว็บไซต์ของคุณจากเว็บไซต์อื่น ๆ ปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ของคุณ การทำเว็บไซต์ของคุณให้ปลอดภัย SEO เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง เพราะปัจจัยด้าน SEO ต่างๆ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำการปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ของคุณอยู่เสมอ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาได้มากขึ้น ต่อไปนี้คือประโยชน์ของการทำ SEO ให้กับธุรกิจของคุณ: เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ เพิ่มโอกาสที่จะปิดการขาย ปรับปรุงการรับรู้ของแบรนด์ของคุณ เพิ่มยอดขายของคุณ เพิ่มรายได้ของคุณ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของคุณ seo สำคัญมากน้อยเพียงใด

SEO หรือ Search Engine Optimization มีความสำคัญมากสำหรับธุรกิจทุกประเภทในปัจจุบัน เพราะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา (SERPs) เมื่อผู้คนค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ซึ่งจะช่วยดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น และมีโอกาสที่จะปิดการขายมากขึ้น

SEO เป็นกระบวนการที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับให้สูงขึ้นใน SERPs ซึ่งสามารถทำได้โดยการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้สอดคล้องกับปัจจัยด้าน SEO ต่างๆ ซึ่งรวมถึง

-การใช้คำหลักและวลีที่เกี่ยวข้องในเนื้อหาของเว็บไซต์
-การสร้างโครงสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย
-การเพิ่มลิงก์กลับไปยังเว็บไซต์ของคุณจากเว็บไซต์อื่น ๆ
-ปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ของคุณ
-การทำเว็บไซต์ของคุณให้ปลอดภัย

SEO เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง เพราะปัจจัยด้าน SEO ต่างๆ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำการปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ของคุณอยู่เสมอ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาได้มากขึ้น

ประโยชน์ของการทำ SEO ให้กับธุรกิจของคุณ

-เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
-เพิ่มโอกาสที่จะปิดการขาย
-ปรับปรุงการรับรู้ของแบรนด์ของคุณ
-เพิ่มยอดขายของคุณ
-เพิ่มรายได้ของคุณ
-ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
-เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของคุณ

หากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณและเพิ่มยอดขายของคุณ SEO เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยคุณบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้

รู้จัก 5 เทคนิคการทำ SEO ให้เว็บไซต์ถูกหาเจอได้ง่ายขึ้นประจำปี 2023

Jimbe Allen
29/06/2023
รู้จัก 5 เทคนิคการทำ SEO ให้เว็บไซต์ถูกหาเจอได้ง่ายขึ้นประจำปี 2023

สำหรับคนทำเว็บส่วนใหญ่คงทราบกันดีว่า การทำ SEO (Search Engine Optimize) นั้น หัวใจหลักคือการปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บของเราถูกหาเจอได้ง่ายขึ้น ซึ่งเทคนิคที่คนทำเว็บหลายคนต่างคุ้นเคยกันดีมีทั้ง การเลือกใช้คีย์เวิร์ด, การเชื่อมลิงค์, การเลือกใช้ชื่อ Title เป็นต้น แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทันสมัยมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บของเราถูกหาเจอง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็มี 5 เทคนิคการทำ SEO ประจำปี 2023 มาฝากกัน

1. ใช้ ChatGPT ช่วยเขียนคอนเทนต์ 

แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของเว็บไซต์คือเนื้อหาหรือคอนเทนต์ของเว็บไซต์นั้น แต่ในปัจจุบันเจ้าของเว็บหรือคนทำเว็บไม่น้อยที่อยากทุ่นแรงและประหยัดเวลาในการทำงาน จนหันไปพึ่ง AI ที่กำลังมาแรงสุด ๆ อย่าง ChatGPT โดยเจ้า AI ตัวนี้สามารถเขียนบทความตามหลักวิชาการที่มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพอย่างที่อัลกอริทึมของ Search Engine ต้องการ ทำให้เว็บของเรามีโอกาสถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้น 

2. แบ่งเนื้อหาคอนเทนต์ให้สั้นจนใช้สายตาสแกนอ่านได้ 

หมดยุคไปแล้วสำหรับการเขียนคอนเทนต์เนื้อหายาว ๆ เป็นหน้ากระดาษ เพราะผลการวิจัยล่าสุดจาก Microsoft พบว่า ผู้ใช้งานยอมเสียเวลาอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์เฉลี่ยเพียงแค่ 8 วินาทีเท่านั้น ฉะนั้น หากอยากให้เว็บของเราได้อันดับดี ๆ บนหน้าการค้นหาก็ต้องแบ่งเนื้อหาคอนเทนต์ให้สั้น กระชับ ได้ใจความ อ่านแล้วย่อยง่าย ใช้เวลาอ่านไม่เกิน 5 – 10 วินาที อาจเน้นการใช้รูปภาพประกอบที่สวยงามเพื่อดึงดูดความสนใจแล้วเสริมด้วยเนื้อหาที่เป็นตัวหนังสือสั้น ๆ 

3. ปรับแต่งหน้า 404 Not Found ให้ไม่น่าเบื่อ

บางครั้งลิงก์ไปเชื่อมไปยังส่วนต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ของเราอาจจะพังหรือเปิดเข้าไปเจอ 404 Not Found หากผู้ใช้งานกด Refresh ใหม่ซ้ำ ๆ ก็อาจทำให้ระบบอัลกอริทึมของ Search Engine มองว่าเว็บของเรานั้นมีปัญหาและไม่น่าเชื่อถือได้ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการจัดอันดับบนหน้าการค้นหา ดังนั้น เราจึงควรปรับแต่งหน้า 404 Not Found ให้ไม่น่าเบื่อ และแจ้งผู้ใช้งานไปตรง ๆ เลยว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น 

4. เพิ่ม Sitemap สำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่

สำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีหน้าเว็บเกิน 500 หน้า ควรเพิ่ม Sitemap เพื่อช่วยให้บอทสำรวจเว็บไซต์ของ Search Engine รู้โครงสร้างภายในเว็บไซต์และเข้าถึงหน้าเว็บเพจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ระบบอัลกอริทึมของ Search Engine ทราบว่าเว็บไซต์ของเราจัดอยู่ในประเภทไหน มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง ถือเป็นความประทับใจแรกที่อาจช่วยให้เราติดอันดับดี ๆ บนหน้าค้นหา 

5. ออกแบบคอนเทนต์ที่สามารถแชร์บนโซเชียลมีเดียได้ 

แม้ว่าคอนเทนต์จะอยู่บนเว็บไซต์ที่ช่องทางหลักในการเข้าถึงคือการค้นหาบน Search Engine ก็ตาม แต่หากเรามัวแต่นั่งรอให้คนมากดค้นหาแล้วเจอเองก็คงไม่ทันกิน  ดังนั้น เราควรหาตัวช่วยให้คอนเทนต์ของเราแพร่หลายไปสู่ผู้ใช้ได้เองด้วยการเพิ่มช่องทางการแชร์บทความบนโซเชียลไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Weibo หรือช่องทางอื่น ๆ จำไว้ว่ายิ่งจำนวนผู้เข้าชมมาก ยิ่งทำให้ Search Engine ให้คะแนนเว็บของเรามาก ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการจัดอันดับบนหน้าค้นหา 

เทคนิคดัน SEO ด้วยรูปภาพ ที่ให้ผลลัพธ์เกินคาดเสมอ!

Jimbe Allen
27/05/2023
เทคนิคดัน SEO ด้วยรูปภาพ ที่ให้ผลลัพธ์เกินคาดเสมอ!

หลายคนคิดว่าการทำ SEO ให้ดีต้องมุ่งเน้นไปที่การใส่คีย์เวิร์ดให้เยอะ ๆ และเน้นไปที่การพัฒนาแต่คอนเทนต์ที่เป็นเนื้อหาบทความเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วอีกอย่างที่สามารถส่งเสริมการทำ SEO ได้เป็นอย่างดีคือการปรับแต่งรูปภาพให้สอดคล้องกับการตรวจสอบของอัลกอริทึมสำหรับ SEO โดย Google สิ่งนี้จะทำให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณจะโดดเด่นกว่าคู่แข่งหลาย ๆ คนได้อย่างแน่นอน

  1. เลือกใช้ภาพต้นฉบับ

เว็บไซต์ส่วนใหญ่มักเลือกใช้ภาพฟรีจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ประกอบเนื้อหา ทำให้ส่วนใหญ่ภาพที่ปรากฏบนหน้าเพจมักจะเป็นภาพเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ไม่โดดเด่น ดังนั้นแนะนำว่าผู้ที่ต้องการใช้ SEO เพิ่มการเข้าถึงลูกค้าควรจัดทำภาพต้นฉบับขึ้นมาประกอบเนื้อหาจะดีกว่า เพราะจะได้ภาพที่สื่อความหมายได้ดีที่สุด และมีความแตกต่างเฉพาะตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเว็บไซต์อื่น ๆ

  1. ใส่คำบรรยายต่าง ๆ ให้ถูกต้อง

Google ไม่สามารถมองเห็นภาพต่าง ๆ ได้เหมือนมนุษย์ ดังนั้นอัลกอริทึมจะทำงานได้ด้วยการตรวจจับแคปชั่นที่เราใส่เพื่อบรรยายรูปภาพต่าง ๆ แทน ดังนั้นใครที่เคยละเลยส่วนนี้ไปต้องรีบทำการแก้ไขโดยด่วน สิ่งที่ต้องทำการแก้ไขเมื่ออัพโหลดรูปคือ Title, Alt Text, Meta Description โดยต้องมีส่วนประกอบของคีย์เวิร์ดอยู่ในแคปชั่นต่าง ๆ เหล่านี้ด้วย จะส่งผลดีต่อการทำ SEO รูปภาพเป็นอย่างมาก

  1. ไฟล์ภาพขนาดพอดี ๆ

หลายคนอาจจะคิดว่าภาพยิ่งใหญ่ยิ่งดี เพราะคิดว่าผู้ใช้งานคงชอบภาพใหญ่ ๆ ที่มีความโดดเด่น แต่รู้ไหมว่าภาพที่มีขนาดใหญ่จนเกินไปจะทำให้ประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ลดลงแทน เพราะยิ่งภาพใหญ่ยิ่งใช้เวลาในการโหลดเพื่อแสดงผลนาน ดังนั้นในขั้นตอนก่อนอัพโหลดไฟล์ภาพ ขอให้พยายามบีบอัดไฟล์รูปภาพให้อยู่ที่ประมาณ 100-200 kb จะดีกว่า

  1. ส่ง Sitemap ให้ Google

Sitemap เปรียบเหมือนแผนผังที่รวบรวมว่าภายในเว็บไซต์มีรายการอะไรบ้างที่นำเสนอบนอินเทอร์เน็ต เป็นการนำเสนอภาพรวมโครงสร้างเว็บไซต์ ซึ่งรูปภาพต่าง ๆ จะถูกบรรจุอยู่บน Sitemap เหล่านี้เช่นกัน สิ่งนี้จะทำให้ Bot ที่มีหน้าที่สำรวจเว็บไซต์ต่าง ๆ ทำงานบนเว็บของเราได้สะดวกยิ่งขึ้น จึงทำให้การจัดอันดับ Google Image ดีขึ้นด้วย

  1. วางตำแหน่งรูปให้สอดคล้องกับเนื้อหา

ตำแหน่งของรูปมีส่วนสำคัญกับ SEO เช่นกัน โดยตำแหน่งที่ดีที่สุดควรอยู่รอบข้างกับเนื้อหาที่ต้องการสื่อสาร โดยคีย์เวิร์ดที่ใช้บรรยายภาพจะต้องสอดคล้องกับคีย์เวิร์ดที่ปรากฏในบทความ สิ่งนี้เป็นการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น 

ดังนั้นใครที่กำลังดูแลเว็บไซต์ธุรกิจอยู่และไม่แน่ใจว่าจะพัฒนาเว็บไซต์ให้ SEO ดีขึ้นได้อย่างไร อย่าลืมนำปัจจัยของรูปภาพที่เราแนะนำไปพิจารณาด้วย เพียงแค่หมั่นพัฒนาเว็บไซต์ตามแนวทาง SEO อย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อการทำธุรกิจในระยะยาวอย่างแน่นอน

คู่มือ SEO สำหรับมือใหม่

Jimbe Allen
23/04/2023
คู่มือ SEO สำหรับมือใหม่

Google ให้นิยาม Search Engine Optimization หรือ SEO ว่าคือ การเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องมือค้นหา โดยสร้าง ปรับปรุงเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้มีศักยภาพในการแสดงผลในเครื่องมือค้นหา อีกนัยหนึ่ง SEO สามารถช่วยให้เว็บไซต์ปรากฏบ่อยขึ้นในการค้นหา

เข้าใจไหม? ถ้ายังงง จะอธิบายให้ฟังง่าย ๆ ดังนี้

ในวันอาทิตย์ วันหยุดสุดสัปดาห์ เราอยากจะออกจากบ้านไปหาร้านกาแฟเก๋ ๆ แถวบ้าน นั่งชิล ๆ จิบอเมริกาโนร้อน ๆ พร้อมเค้กอร่อย ๆ แต่เราไม่รู้จะไปที่ไหน มีร้านอะไรอยู่แถวนี้บ้าง เราก็เข้าระบบอินเทอร์เน็ต เข้าเว็บไซต์ Google.com แล้วพิมพ์คำว่า “ร้านกาแฟใกล้ฉัน” ลงไปในช่องค้นหา จากนั้น Google ก็จะแสดงผลการค้นหาออกมาเป็นรายชื่อร้านกาแฟมากมาย พร้อมข้อมูลต่าง ๆ 

จากตัวอย่างด้านบน Search Engine หรือ เครื่องมือค้นหา ก็คือ Google.com หรือเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่ค้นหาเรื่องที่เราต้องการ ที่เรารู้จักกันดีนอกจาก Google.com แล้วก็ยังมี Bing.com Yahoo.com

ส่วนคำที่เราพิมพ์ค้นหาว่า “ร้านกาแฟใกล้ฉัน” เรียกว่า Keyword

ทีนี้ผลการค้นหา รายชื่อร้านกาแฟพร้อมข้อมูลต่าง ๆ ของแต่ละร้านที่แสดงผลออกมานั้น รายชื่อเหล่านี้มาจากไหน ทำไมถึงเรียงลำดับในแบบที่เราเห็น บางร้านที่เราเคยขับรถผ่านก็เห็น ๆ ว่าร้านอยู่ใกล้แถวบ้านเราเช่นกัน แต่กลับไม่มีชื่อปรากฎในรายชื่อของผลการค้นหา เพราะอะไร

คำตอบคือ ร้านกาแฟเหล่านั้นทำการ Optimization หรือแปลตรงตัวว่า “การเพิ่มประสิทธิภาพ” ให้กับเว็บไซต์ของตัวเอง

ดังนั้น Search Engine Optimization หรือ SEO คือการทำข้อมูลในเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ Search Engine หาเจอ แล้วนำออกมาแสดงผล เมื่อมีคนค้นหาด้วย Keyword ที่ตรงกับเนื้อหาในเว็บไซต์เรา

ทำไมต้องทำ SEO จำเป็นไหม?

ในโลกยุคการตลาดดิจิทัล สื่อออนไลน์เป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์หลักของทุกธุรกิจ ประชาชนทุกคน (ลูกค้า) มีสมาร์ทโฟนติดตัว สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ทุกที่และทุกเวลา ดังนั้นการ SEO จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จัก ให้ลูกค้าเห็นข้อมูลธุรกิจของเราก่อนคู่แข่ง จะเปิดโอกาสในการปิดการขายให้มากกว่า ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับราคาสื่อประชาสัมพันธ์อื่น ๆ

SEO ทำอย่างไร?

การทำ SEO คือ การสร้างเนื้อหาในเว็บไซต์ให้มี Keyword มากพอที่ Search Engine จะสามารถค้นเจอแล้วนำมาแสดงผล ดังนั้นความยากหรือง่ายไม่ได้อยู่ที่วิธีการสร้างเนื้อหาแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่อยู่การจะเลือกใช้ Keyword อะไรให้เหมาะสมกับเว็บไซต์หรือหน้าเพจของเราด้วย รวมไปถึงการออกแบบเนื้อหาให้สอดคล้องกับการทำงานของ Search Engine หรือ Google ซึ่งต้องอาศัยความรู้ด้านเทคนิคพอสมควรทีเดียว

มีบริษัทรับทำ SEO อยู่มากมาย ทั้งดีและไม่มี แต่เราควรจะศึกษาทำความเข้าใจ SEO ให้ดีเสียก่อน ค่อยตัดสินใจเลือกจ้างคนอื่นทำ หรือเราจะลงมือทำเอง

Organic Traffic vs. Paid Traffic – ฟรี vs. จ่ายเงิน

การให้ Search Engine แสดงผลเว็บไซต์ของเรามี 2 แบบ แบบฟรี กับ จ่ายเงิน

แบบฟรี ๆ ที่เรียกว่า Organic Traffic ทำโดยการสร้างเนื้อหาในเว็บไซต์โดยใช้ Keyword แบบที่กล่าวไปแล้วข้างต้น แบบนี้เราไม่ต้องเสียเงินโฆษณาให้ Google แต่อาศัยการทำงานสม่ำเสมอและต้องใช้เวลา

อีกแบบเรียกว่า Paid Traffic คือจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาให้ Google เวลาแสดงผล เว็บไซต์ที่จ่ายเงินนี้จะอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าเว็บไซต์แบบฟรี โดยจะมีคำว่า “Ad” อยู่ข้างหน้าชื่อเว็บไซต์

จริง ๆ แล้วการทำ Search Engine Optimization หรือ SEO ยังมีรายละเอียดมากกว่านี้ หวังว่าข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้จะทำให้การยอดศึกษาเรื่อง SEO ให้ลึกและกว้างต่อไปง่ายขึ้น และสามารถนำไปปรับไปกับเว็บไซต์ของคุณได้